อ่านรายละเอียดประกาศได้ที่... http://www.customs.go.th/data_files/1d1a6b2be39da1200e540cfed1449b87.pdf
ที่มา : กรมศุลกากร
- ข่าวสารวงการพลาสติก
- ฮิต: 1049
1500 บาทต่อปี |
1 ปี มี 6 ฉบับ | |
ฉบับ: | มกราคม - กุมภาพันธ์ |
ฉบับ: | มีนาคม - เมษายน |
ฉบับ: | พฤษภาคม - มิถุนายน |
ฉบับ: | กรกฏาคม - สิงหาคม |
ฉบับ: | กันยายน - ตุลาคม |
ฉบับ: | พฤศจิกายน - ธันวาคม |
อ่านรายละเอียดประกาศได้ที่... http://www.customs.go.th/data_files/1d1a6b2be39da1200e540cfed1449b87.pdf
ที่มา : กรมศุลกากร
ในไตรมาสที่ 4 ปี 2563 ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรมพลาสติกขยายตัวร้อยละ 2.84 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (%QoQ) และขยายตัวร้อยละ 1.27 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (%YoY) ซึ่งดัชนีผลผลิตที่ขยายตัวมากที่สุด ได้แก่ เครื่องใช้ประจำโต๊ะอาหาร ครัว และห้องน้ำ
ในไตรมาสที่ 4 ปี 2563 ดัชนีการส่งสินค้าอุตสาหกรรมพลาสติกขยายตัวร้อยละ 0.72 เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (%QoQ) แต่หดตัวร้อยละ 3.32 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (%YoY)
ปี 2564-2566 ยอดขายผลิตภัณฑ์พลาสติกในประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 2.0-3.0% ต่อปี หลังเผชิญภาวะซบเซามากในปี 2563 ขณะที่ปริมาณส่งออกจะขยายตัว 2.0-3.0% ต่อปี ผลจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยและโลก โดยเฉพาะการเติบโตของอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ได้แก่ บรรจุภัณฑ์ เครื่องใช้ไฟฟ้า ภาคก่อสร้าง ชิ้นส่วนยานยนต์และเครื่องมือแพทย์ ซึ่งมีสัดส่วนการใช้พลาสติกรวมกันเกือบ 80% ของผลิตภัณฑ์พลาสติกในประเทศ สำหรับปัจจัยท้าทายในช่วง 3 ปีข้างหน้า ได้แก่ ความผันผวนของราคาน้ำมันดิบโลกซึ่งเป็นวัตถุดิบตั้งต้นของเม็ดพลาสติก ต้นทุนค่าจ้างแรงงานที่มีแนวโน้มปรับสูงขึ้น และกระแสรักษ์สิ่งแวดล้อมทั่วโลกรวมถึงประเทศไทยที่มุ่งลดและเลิกการใช้พลาสติกประเภทใช้ครั้งเดียวทิ้ง (Single-use plastics)
ปัจจุบัน แม้จะมีโครงการเรียกคืนบรรจุภัณฑ์เพื่อนำไปรีไซเคิล เช่น ขวด PET ฝาขวด กล่อง UHT แต่ก็ยังไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ นำมาซึ่งการผลักดัน EPR ขยายความรับผิดชอบของผู้ผลิตของไทยและทุกภาคส่วน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียนให้สำเร็จ
วารสารสิ่งแวดล้อม สถาบันวิจัยสภาวะแวดล้อม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย อธิบาย ถึง “หลักการความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้นของผู้ผลิต (Extended Producer Responsibility : EPR)” เอาไว้ว่าเป็นเครื่องมือในการจัดการขยะและส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน โดย EPR ได้รับการนำเสนอเป็นครั้งแรกในช่วงปี 1990 โดย Dr.Thomas Lindhqvist แห่ง Lund University ประเทศสวีเดน
ประเทศที่พัฒนาแล้ว ภาครัฐจะใช้เครื่องมือเชิงนโยบายโดยส่วนใหญ่จะออกเป็นกฎหมาย เพื่อกำหนดให้ผู้ผลิต เจ้าของแบรนด์ทุกเจ้าทุกรายในอุตสาหกรรมนั้นๆ ช่วยจัดระบบเรียกคืน (Take-back system) ขยะบรรจุภัณฑ์หรือซากผลิตภัณฑ์ที่เกิดขึ้นหลังการบริโภค เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการขยะ และช่วยแบ่งเบาภาระของรัฐบาลท้องถิ่นที่ต้องจัดการขยะบรรจุภัณฑ์และซากผลิตภัณฑ์หลากหลายชนิด
จับตาปัจจัยหลักในการขับเคลื่อน "การลงทุน" ที่ต้องติดตาม และโอกาสสำหรับนักลงทุนในปี 2564 เมื่อสถานการณ์โควิด-19 เริ่มมีทิศทางดีขึ้น และเข้าสู่ภาวะปกติแม้จะไม่เหมือนก่อนช่วงวิกฤติ
ปี 2563 นี้คงเป็นปีที่หลายๆ คนอยากจะลืม เพราะเป็นปีที่ทั้งเศรษฐกิจ ธุรกิจ สังคม และความเป็นอยู่ของคนต่างได้รับผลกระทบจากโรคระบาดร้ายแรงที่แพร่ไปทั่วโลก หลายประเทศต้องปิดเมือง และต้องปรับตัวให้เข้ากับวิถีชีวิตและวิธีการทำงานที่แตกต่างไปจากเดิม ขณะที่การเลือกตั้งในสหรัฐฯ ได้ผ่านพ้นไปแล้ว และการพัฒนาวัคซีนป้องกันโควิด-19 ก็มีทีท่าว่าจะคืบหน้าไปได้ด้วยดี ทั่วโลกต่างเฝ้ารอเวลาที่จะได้กลับคืนสู่สภาวะปกติที่โควิด-19 จะไม่เป็นภัยคุกคามของโลกอีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม สภาวะ ”ปกติ” นี้ คงจะเปลี่ยนไปไม่เหมือนช่วงก่อนเกิดโควิด-19 เนื่องจากผู้บริโภคหันมาใช้เทคโนโลยี และบริการออนไลน์กันมากขึ้นจากการกักตัวอยู่บ้านในช่วงที่มีการแพร่ระบาด และแนวโน้มด้านบริการออนไลน์ก็น่าจะยังคงอยู่กับเราต่อไป
ทั้งนี้ปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนการลงทุนที่เราต้องติดตาม และโอกาสสำหรับนักลงทุนในปี 2564 นี้ ดังนี้
กองนโยบายอุตสาหกรรมรายสาขา สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เผย แนวโน้มอุตสาหกรรมรายสาขาที่สำคัญ ไตรมาสที่ 1/2564
อุตสาหกรรมเหล็กและเหล็กกล้า
คาดการณ์ว่าการผลิตทรงตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีประเด็นที่น่าติดตาม เช่น สถานการณ์เศรษฐกิจและการค้าโลก สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ ราคาสินค้าเหล็กต่างประเทศ และการดำเนินการโครงการก่สร้างภาครัฐ ซึ่งประเด็นดังกล่าวจะส่งผลต่อปริมาณการผลิต และการบริโภคผลิตภัณฑ์เหล็กในประเทศ
อุตสาหกรรมไฟฟ้า
คาดว่าดัชนีผลผลิตและมูลค่าการส่งออกจะขยายตัวร้อยละ 4.0 และ 3.9 ตามลำดับ เนื่องจากไทยสามารถรับมือจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ดี รวมทั้งนโยบายรัฐบาลที่กระตุ้นเศรษฐกิจ ทำให้ประชาชนยังคงมีความต้องการใช้อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ประเด็นที่ต้องติดตามและอาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและประเทศไทย คือ นโยบายของประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่ ซึ่งมีส่วนของการส่งเสริมพลังงานสะอาดอาจทำให้ตลาดส่งออกโซลาร์เซลล์ของประเทศไทยเติบโต รวมถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของกลุ่มคู่ค้า อาจจะทำให้ปริมาณคำสั่งซื้อสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าจากประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น